พฤษภาคม 3, 2024

ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวหุ้น การเงิน การลงทุน ตลาดคริปโต ล่าสุดทั้งในไทยและทั่วโลก

Amazon e-commerce ยักษ์ใหญ่ของโลกกำลังวางแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ด้านการจ่ายเงินผ่าน cryptocurrency

โฆษกจาก Amazon ได้ออกมาเผยว่าทางบริษัทด้าน e-commerce ยักษ์ใหญ่ของโลกดังกล่าวนั้นกำลังวางแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ด้านการจ่ายเงินผ่าน cryptocurrency

โดยอ้างอิงจากสื่อท้องถิ่นดีคริป โฆษกดังกล่าวเผยว่า

“เราได้รับแรงบันดาลใจจากนวัตกรรมที่เกิดขึ้นในวงการคริปโตเคอเรนซี และกำลังสำรวจว่าสิ่งนี้จะมีลักษณะอย่างไรใน Amazon” พร้อมเสริมว่า “เราเชื่อว่าอนาคตของโลกนี้จะถูกสร้างขึ้นอยู่บนเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้การชำระเงินมีความทันสมัย, ​​รวดเร็ว และราคาไม่แพง และหวังว่าจะนำอนาคตนั้นมาสู่ลูกค้าของ Amazon โดยเร็วที่สุด”

“การสำรวจ” อาจมีความหมายมากมายสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ที่มีทรัพยากรเกือบไม่จำกัดและพนักงานหลายพันคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ออกมาประกาศรับสมัครงานหัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์สกุลเงินดิจิทัลและบล็อคเชน ที่ได้ระบุความต้องการว่าควรมีความเชี่ยวชาญในสกุลเงินดิจิทัล, สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง และบัญชีแยกประเภท โดยการจ้างงานใหม่นี้คาดว่าจะ “ทำให้พวกเขาได้มาเป็นผู้นำในด้านการลงทุนและความสามารถใหม่ ๆ” และพัฒนา “กลยุทธ์การเปิดตัว” ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าบริษัทกำลังพิจารณาอย่างจริงจังว่า crypto สามารถทำอะไรได้บ้าง

Amazon เคยให้ความสนใจในคริปโตอย่างมากก่อนหน้านี้

เมื่อต้นเดือนนี้ Amazon Web Services ซึ่งเป็นบริษัทด้านแพลตฟอร์มคลาวด์ของบริษัท ได้โฆษณารับสมัครงาน Head of Product สำหรับฝ่าย Amazon Managed Blockchain ที่เปิดมาอย่างยาวนาน โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนั้นช่วยด้านโฮสต์และฮาร์ดแวร์สำหรับนักพัฒนาที่ต้องการสร้างผลิตภัณฑ์บน Hyperledger Fabric หรือ Ethereum โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การโพสต์ระบุความต้องการผู้สมัครที่มีประสบการณ์ด้านการเงินแบบกระจายศูนย์ ซึ่งบ่งบอกว่า AWS อาจกำลังสามารถสร้างฟีเจอร์ใหม่ๆ สำหรับโปรโตคอลที่ใช้ประโยชน์จากบล็อคเชนเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินโดยไม่ต้องใช้ตัวกลาง

นอกจากนี้ทีมโฆษณา FinTech ของ Amazon กำลังมองหาวิศวกรซอฟต์แวร์อาวุโสเพื่อมาช่วยพัฒนา “บัญชีแยกประเภททางการเงิน, ระบบการเรียกเก็บเงิน และระบบการกระทบยอดเพื่อให้ข้อมูลโปร่งใสเกี่ยวกับข้อมูลทางการเงินข้ามชาติ” แม้ว่าโพสต์จะไม่กล่าวถึง “blockchain” แต่ URL ของมันก็กล่าวถึง