พฤษภาคม 15, 2024

ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวหุ้น การเงิน การลงทุน ตลาดคริปโต ล่าสุดทั้งในไทยและทั่วโลก

เจฟฟ์ เบซอส ก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอ‘Amazon’วันจันทร์นี้ ทิ้งทั้ง‘มรดกก้อนโต-ปัญหามหึมา’ไว้เบื้องหลัง

เจฟฟ์ เบซอส อภิมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดในโลก กำลังจะจุดระเบิดส่งตัวเองเข้าสู่ความสนใจที่จะเป็นอาชีพการงานอย่างต่อไปของเขา โดยทิ้งมรดกซึ่งดูคงทนหนักแน่นเอาไว้ให้เบื้องหลัง ภายหลังเปลี่ยนแปลงพลิกโฉม “แอมะซอน” จากการเป็นผู้ขายหนังสือออนไลน์ที่ไม่ค่อยมีสีสันเท่าใดนัก ให้กลายเป็นหนึ่งในบริษัททรงอำนาจที่สุดบนพื้นพิภพ

เบซอส ในวัย 57 ปี เตรียมตัวที่จะส่งมอบตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ให้แก่ แอนดี แจสซี ในวันจันทร์ (5 ก.ค.) นี้ และผันตัวเองไปสู่บริษัทส่วนตัวของเขาที่ทำธุรกิจด้านการสำรวจอวกาศ ตลอดจนงานการกุศล และความอุตสาหะอย่างอื่นๆ อย่างไรก็ดี เขาจะยังคงมีบทบาทสำคัญอยู่ในแอมะซอน โดยนั่งเก้าอี้ประธานบริหาร (Executive Chairman) ของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีและอี-คอมเมิร์ซแห่งนี้ ซึ่งเขาเป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อ 27 ปีก่อน

การเปลี่ยนผ่านเช่นนี้เกิดขึ้นมา ภายหลังการเติบโตอย่างโดดเด่นเหนือใครๆ ของ แอมะซอน ซึ่งเป็นที่สนใจจับตามากเป็นพิเศษในเรื่องของนวัตกรรม

แต่บริษัทแห่งนี้ก็ถูกมองว่าเป็นตัววายร้ายด้วยเช่นกัน จากวิธีประพฤติปฏิบัติทางธุรกิจที่บดขยี้พวกคู่แข่งขันอย่างโหดๆ ขณะที่วิธีดูแลจัดการกับลูกจ้างพนักงานซึ่งมีอยู่มากกว่า 1 ล้านคนก็ก่อให้เกิดความวิตกกังวล

“เบซอสเป็นผู้นำแบบทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพลิกโฉม … ในกิจการขายหนังสือ, ตลาดขายปลีก, คลาวด์คอมพิวติ้ง, และโฮมดีลิเวอรี” นี่เป็นการประเมินของ แดร์เรลล์ เวสต์ นักวิจัยอาวุโสที่ศูนย์เพื่อนวัตกรรมเทคโนโลยี ของสถาบันบรูกกิ้ง หน่วยงานคลังสมองชื่อดัง

“เขาเป็นผู้บุกเบิกที่ทำให้เกิดความสะดวกสบายในด้านต่างๆ ขึ้นมาจำนวนมากซึ่งผู้คนมักมองข้าม อย่างเช่น การไปจับจ่ายซื้อของในร้านค้าออนไลน์, การสั่งซื้ออะไรสักอย่างทางออนไลน์ และมันก็ถูกส่งมาที่บ้านคุณได้ในวันรุ่งขึ้น ภาคส่วนอุตสาหกรรมอี-คอมเมิร์ซโดยรวมแล้ว เป็นหนี้ของบุคคลผู้นี้ในเรื่องนวัตกรรมด้านต่างๆ จำนวนมาก”

เมื่อปรากฏตัวต่อสาธารณชน เบซอสมักเล่าย้อนทวนถึงวัยเวลาช่วงแรกๆ ของแอมะซอน ซึ่งเริ่มต้นขึ้นที่โรงรถในบ้านของเขา ตอนที่เขาต้องบรรจุหีบห่อสินค้าตามออร์เดอร์ด้วยตัวเขาเอง จากนั้นก็ขับรถนำหีบห่อเหล่านี้ไปส่งไปรษณีย์

ทุกวันนี้ แอมะซอนมีมูลค่าตามราคาในตลาดหุ้นสูงกว่า 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่บริษัทรายงานยอดรายรับประจำปี 2020 เอาไว้ที่ 386,000 ล้านดอลลาร์ จากการดำเนินงานทั้งในด้านอี-คอมเมิร์ซ, คลาวด์ คอมพิวติ้ง, ข้าวของสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ, ปัญญาประดิษฐ์, สื่อสตรีมมิ่ง, และอื่นๆ อีกมากมาย

“สัญชาตญาณ”

เบซอสนั้น “มีสัญชาตญาณสำหรับสิ่งที่ถูกต้อง” ในการค้นหาตลาดแห่งต่อไป รอเจอร์ เคย์ นักวิเคราะห์แห่ง เอนด์พอยต์ เทคโนโลยีส์ แอสโซซิเอตส์ พูดไว้เช่นนี้เคย์บอกว่า เบซอสคล่องตัวและฉลาดมากในการเปลี่ยนจากแค่การขายหนังสือทางออนไลน์ ไปสู่การขายสินค้าอย่างอื่นๆ ไปสู่การเป็นตลาดออนไลน์ รวมทั้งประสบความสำเร็จในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคลาวด์สำหรับบริษัทแห่งนี้ ซึ่งได้กลายเป็น แอมะซอน เว็บ เซอร์วิเซส ที่ทำกำไรอย่างสูงลิ่ว

แอมะซอน อยู่รอดทนทานกว่าพวกคู่แข่งของตน ด้วยการยินยอมละทิ้งผลกำไรที่สามารถทำได้ในช่วงปีแรกๆ “และนำเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปลงทุนต่อเพื่อเป็นการขยายกิจการ” เคย์ ชี้

“ถ้าหากคุณมองดูเส้นทางเดินของบริษัทในตอนนี้ มันสมเหตุสมผลไปหมดเลย” เคย์ กล่าวต่อ “คุณสามารถพูดได้ว่า เบซอสเป็นสถาปนิกนักวางแปลนธุรกิจที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งในยุคของเขา”

ขณะที่ บ็อบ โอดอนเนลล์ แห่ง เทคนาไลซิส รีเสิรช พูดถึง เบซอส ว่า “ไม่ได้เป็นคนแรก หรือไม่ได้เป็นเพียงคนเดียว แต่เขาถือคอนเซปต์ (เรื่องอี-คอนเมิร์ซ) เอาไว้อย่างมั่นคง และทำงานเพื่อทำให้มันสมบูรณ์แบบขึ้นมา”

แอมะซอนสามารถที่จะเอาชนะพวกคู่แข่งได้ เพราะ เบซอส “ตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐาน” ซึ่งครอบคลุมพวกเครือขายใหญ่โตกว้างขวางของ คลังสินค้า, รถบรรทุก, เครื่องบินบรรทุก, และโลจิสติกส์อื่นๆ สำหรับธุรกิจนี้ โอดอนเนลล์ กล่าว

“บริษัทอื่นๆ จำนวนมากเลยไม่ต้องการที่จะใช้เงินไปในเรื่องงานเบื้องหลังฉากที่ยุ่งยากวุ่นวายพวกนี้”

การก้าวผงาดขึ้นมาอย่างน่าตื่นตะลึงของ แอมะซอน ได้ทำให้เบซอสกลายเป็นผู้มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิมากกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์ แม้กระทั่งหลังจากทำข้อตกลงหย่าร้างซึ่งมีการแบ่งทรัพย์สมบัติส่วนหนึ่งให้แก่ แมคเคนซี สกอตต์ อดีตภรรยาของเขาแล้ว

เบซอสจะก้าวออกจากงานบริหารแอมะซอนชนิดวันต่อวัน เพื่อใช้เวลามากขึ้นให้แก่โปรเจ็คต์ต่างๆ รวมทั้ง บลู ออริจิน บริษัทกิจการอวกาศของเขา –ซึ่งมีกำหนดจะนำตัวเขาขึ้นสู่อวกาศในช่วงต่อไปของเดือนนี้

เขายังเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ชื่อดังและทรงอิทธิพลของสหรัฐฯอย่าง วอชิงตันโพสต์ รวมทั้งได้อุทิศทั้งเวลาและเงินทองให้แก่ความพยายามในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ แต่เวลาเดียวกันนั้นก็กำลังเจอกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนักหลังจากมีรายงานข่าวออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ในบางปีที่ผ่านมาเขาอ้างเหตุขอลดหย่อนต่างๆ จนกระทั่งไม่ต้องเสียภาษีเงินได้เลย

แอมะซอนจะไปทางไหนหลังจากนี้ ?