ธันวาคม 4, 2024

ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวหุ้น การเงิน การลงทุน ตลาดคริปโต ล่าสุดทั้งในไทยและทั่วโลก

อเมริกาคุมเข้มมาตรการป้องกันการใช้คริปโตของรัสเซีย

แนวโน้มที่ประธานาธิบดี Vladimir Putin อาจนำคริปโตมาใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรจากประเทศต่าง ๆ เริ่มมีความเป็นไปได้มากขึ้น ส่งผลให้สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรปต่างก็ออกมาแสดงความกังวลต่อการกระทำดังกล่าวเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้บรรดาผู้นำจากประเทศสหรัฐอเมริกา, แคนาดา, สาธารณรัฐฝรั่งเศส, สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี, สาธารณรัฐอิตาลี, ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร และกลุ่มประเทศอื่น ๆ ในสหภาพยุโรป ลงความเห็นคุมเข้มมาตรการต่าง ๆ ขึ้นเป็น 2 เท่าพร้อมสั่งห้ามนำเข้าสินค้าจากประเทศรัสเซียจำนวนมาก และส่งออกสินค้าฟุ่มเฟือย (Luxury goods) รวมไปถึงยังออกคำสั่งให้กระทรวงการคลังแห่งสหรัฐฯคอยติดตามความเคลื่อนไหวในด้านต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เมื่อวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา หวังตัดขาดสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจการเงินอย่างเด็ดขาด และป้องกันรัสเซียใช้คริปโตเป็นเครื่องมือหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตร พร้อมย้ำให้ประชาชนชาวอเมริกันปฏิบัติการกฎระเบียบต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด

รัฐบาลสหรัฐอเมริการ่วมมือกับสหภาพยุโรป และกลุ่มประเทศ G7 ออกมาตรการใหม่ดังกล่าวขึ้นมาเพื่อเพิ่มแรงกดดันให้กับประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย และยังถือเป็นการสร้างข้อจำกัดทางการเงินให้กับประเทศรัสเซียเพิ่มเติมอีกด้วย โดยในวันพุธที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) หรือ องค์กรฝ่ายบริหารแห่งสหภาพยุโรปเผยว่าประเทศสมาชิกได้ร่วมลงนามตกลงให้มีการปรับแก้กฎหมายเพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ได้มากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากทางองค์กรไม่สามารถหลีกเลี่ยงการออกมาคว่ำบาตรรัสเซียได้ นอกจากนี้ ทางสหภาพยุโรปยังได้ให้ความสำคัญต่อความเป็นไปได้ที่ทางรัสเซียอาจใช้สินทรัพย์คริปโตแทนเงินสด

แม้ว่าประเทศสมาชิกหลายแห่งยังไม่ได้ออกมากล่าวว่าพวกเขาจะยินยอมที่จะออกมาจำกัดการผลิตน้ำมัน และแก๊ซจากรัสเซียเช่นเดียวกันกับที่ Joe Biden ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอมเริกาได้ออกมาแถลงการณ์บังคับใช้มาตรการดังกล่าวไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ตาม แต่ทว่า Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปเผยว่าในวันเสาร์ที่ 12 มีนาคมนี้ เจ้าหน้าที่จากองค์กรจะเริ่มออกมชี้แจงถึงมาตรการที่ใช้ในการต่อต้านรัสเซียให้ชัดเจนมากขึ้น พร้อมระบุถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการแบนครั้งใหญ่ขึ้นในตลาดการลงทุนยุโรปทั่วทั้งอุตสาหกรรมพลังงานของรัสเซียอีกด้วยเช่นเดียวกัน

บริษัทคริปโตจำนวนมากในสหรัฐอเมริกาจึงมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการตามมาตรการที่ทางรัฐบาลออกมาอย่างเคร่งครัดเพื่อให้กระทบต่อธุรกิจของตนเองอย่างน้อยที่สุด ซึ่งจะเห็นได้จาก Coinbase และ Kraken ที่จัดตั้งสำนักงานใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกาก็ต้องออกมาระงับการใช้สินทรัพย์ของผู้ที่มีชื่ออยู่ในประเทศที่ถูกคว่ำบาตรเช่นเดียวกัน แม้แต่แพลตฟอร์มคริปโตรายใหญ่อย่าง Binance เองก็ได้ออกมากล่าวว่า ผู้ใช้งานเปิดบัญชีจากธนาคารในรัสเซียอาจไม่สามารถนำสินทรัพย์ หรือเข้าใช้บริการแพลตฟอร์มในการชำระเงินจากบัตร Mastercard และ Visa ที่ออกในประเทศรัสเซียได้