ธันวาคม 13, 2024

ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวหุ้น การเงิน การลงทุน ตลาดคริปโต ล่าสุดทั้งในไทยและทั่วโลก

คริปโตจะถูกใช้เป็นศูนย์กลางในการโอนเงินที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้ในปี 2030

Raoul Pal อดีตผู้จัดการกองทุน Goldman Sach ได้อัพเดทชาร์ตการที่สำคัญเป็นเปรียบเทียบการนำ crypto ไปใช้งานและอินเทอร์เน็ตชาร์ตของเขาที่แชร์บน Twitter แสดงให้เห็นถึงความเร็วที่เทคโนโลยีทั้งสองนั้นสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานตามเกณฑ์จำนวนที่กำหนดในช่วงระยะเวลาที่เท่ากัน

กราฟของอินเทอร์เน็ตนั้นเริ่มต้นในปี 1992 ขณะที่คริปโตเริ่มต้นในปี 2016 เมื่อทั้ง Bitcoin และ Ethereum นั้นเริ่มมีการใช้งานเทคโนโลยีทั้งสองนั้นมีจำนวนผู้ใช้งานอยู่ที่ 5 ล้านคนในเวลานั้น

ดังแสดงในกราฟด้านล่างนั้นชาร์ตนั้นบอกกับเราว่าคริปโตใช้เวลาเพียง 6 ปีในการเพิ่มระดับการยอมรับในการดึงดูดผู้ใช้กว่า 295 ล้านคนซึ่งหากเทียบกับอินเทอร์เน็ตแล้วมีอัตราการเติบโตที่น้อยกว่าถึงครึ่งหนึ่งซึ่งตัวเลขอยู่ที่ 119 ล้านคนในปี 1998

Raoul ยังบอกอีกว่ามีการเติบโตถึง 137% ในช่วงเวลานั้นในขณะที่อินเทอร์นั้นเติบโตอยู่ที่ 74% ปี 2021 นั้นถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการระบาดครั้งใหญ่ของ COVID-19 ทำให้ความต้องการในการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลนั้นเพิ่มมากขึ้นบวกกับความต้องการลงทุนในรูปแบบที่แปลกใหม่ Paul กล่าวว่า

“ปี 2021 เป็นปีที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและผลจากกฎของ Reed ของเครือข่ายที่สร้างขึ้นในอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณนั้นเห็นได้อย่างชัดเจน…อย่างที่ผมเคยพูดอยู่เสมอว่านี่คือการนำเทคโนโลยีที่เร็วที่สุดเท่าที่โลกนั้นเคยมีมาในการนำมาใช้งาน”

นอกจากนี้ Raoul ยังคาดการณ์ด้วยว่าจำนวนผู้ใช้สินทรัพย์ดิจิทัลนั้นจะแตะ 1.2 พันล้านรายภายในปี 2025 หากจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตนั้นชะลอตัวลงไปอีกตัวชี้วัดนี้อาจเปลี่ยนเพิ่มเป็น 2.5 พันล้านราย “ถ้าเราถือให้เป็นช่วง 6 ปีแรกของอัตราการเติบโตของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต” เขากล่าวเสริม

การคาดการณ์นั้นเป็นไปในเชิงบวกมากขึ้นในแต่ละปี Raoul กล่าวว่า

“ด้วยอัตราที่เพิ่มขึ้น 76% (บ่งบอกว่าเครือข่ายลดลงเกือบครึ่งเมื่อเทียบกับช่วงที่เพิ่มขึ้นอย่างเต็มที่) เราจะมีผู้ใช้งานคริปโตที่สูงถึง 5 พันล้านคนในปี 2030 นั่นมันจะกลายเป็นยุคของการถือครองเป็นเจ้าของ, โอนและเก็บมูลค่าและใช้เป็นเงื่อนไขการติดต่อทั่วโลกด้วย ว้าว!”

อะไรที่อยู่เบื้องหลังการนำ Crypto มาใช้งานจริง
“ความแพร่หลาย” ในการใช้งานและแอพลิเคชั่นทีดียิ่งกว่านั้นชับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี บล็อกเชน Rual กล่าวว่าปัจจัยหลัก 2 ปัจจัยนี้มีผลให้ผู้ใช้นั้นก้าวเข้ามาสู่โลกของคริปโต

Raoul ได้เสนอสูตรเพื่อคาดการณ์ผลกระทบในการนำคริปโตไปใช้ที่เพิ่มมากขึ้นการนำปริมาณการทำธุรกรรมรายวันไปคูณกับจำนวนผู้ใช้งานที่ยังมีการใช้งานอยู่จะสามารถทำให้เราสามารถประมาณการราคาในอนาคตได้

Raoul ได้ใช้กราฟ Bitcoin ในการสาธิตเป็นตัวอย่างดังที่เห็นด้านล่างนี้กราฟสีน้ำเงินเป็นราคาของ BTC ตั้งแต่ปี 2010 จนถึงปัจจุบันเมื่อเทียบกับมูลค่าที่เกิดขึ้นจากสูตรที่เขาได้ใช้ในการคำนวณนี้

ส่วนกราฟของ Ethereum, Polkadot และ XRP ก็ดูเหมาะที่จะใช้โมเดลดังกล่าวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลจะมีความแพร่หลายเป็นวงกว้าง Raoul คาดว่าเหรียญที่มีกลไกในการเผาเหรียญ (เช่น ETH, BNB, LUNA) ราคาจะวิ่งได้ดีกว่าตัวอื่นในตลาด

ในทำนองเดียวกัน ETH นั้นสามารถเติบโตได้ดีกว่า BTC และกลายเป็นสินทรัพย์ที่ใหญ่กว่าตามมูลค่าตลาดดังที่ Raoul ได้กล่าวเหตุการณ์นี้นั้นอาจไม่มีผลใด ๆ เพราะทั้งสองเครือข่ายนั้นมีลักษณะการใช้งานที่ต่างกันออกไปเขากล่าวเสริมว่า

“แต่ถ้าเครือข่ายยังสร้างผลกระทบต่อเครือข่ายช่องทาง log regression ก็ยังคงเป้นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการคาดการณ์อนาคต…สมมติว่า BTC นั้นยังคงมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานอยู่ที่ 1 จะทำให้ราคาเป้าหมายนั้นอยู่ที่ $600,000”

ในขณะที่เขียนราคาของ Bitcoin อยู่ที่ $39,075 ซึ่งกราฟก็วิ่ง sideway ออกข้างยังไม่เลือกทิศทางว่าจะขึ้นหรือลง