พฤษภาคม 19, 2024

ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวหุ้น การเงิน การลงทุน ตลาดคริปโต ล่าสุดทั้งในไทยและทั่วโลก

ยุโรปกำลังผงาดเป็นผู้นำตลาดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยมี DeFi และจีน ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้

ความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นของการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) เป็นตัวขับเคลื่อนให้ยุโรปมีตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นของการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) เป็นตัวขับเคลื่อนให้ยุโรปมีตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลกแซงหน้าภูมิภาคเอเชียตะวันออก อันเนื่องมาจากการปรามปรามคริปโตเคอร์เรนซี่ของจีน

ข้อมูลล่าสุดของ Chainanalysis เผยว่า ทวีปยุโรปได้กลายเป็นภูมิภาคที่มีตลาดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยเมื่อปีที่ผ่านมามีเงินทุนไหลเข้ามากว่า 1 ล้านล้านดอลลาห์สหรัฐฯ และคิดเป็นสัดส่วน 25% ของกิจกรรมทั้งหมดทั่วโลก ซึ่งมาจากการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2020

DeFi ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของคริปโตในยุโรป

มูลค่าของธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซี่เพิ่มขึ้นจาก 1.4 พันล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม 2020 เป็น 46.3 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายนปี 2021 โดยสหราชอาณาจักรเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้ โดยมีมูลค่าธุรกรรมคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปมากถึง 170 พันล้านดอลลาห์เลยทีเดียว

ในสหราชอาณาจักรมีการถือครอง Bitcoin  คิดเป็น 28 เปอร์เซ็นต์ของธุรกรรมคริปโตทั้งหมด ในขณะ Ethereum คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 40 เปอร์เซ็นต์ โดยส่วนใหญ่มาจากโปรเจ็ค DeFi ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้ ส่วนประเทศอื่น ๆ อย่าง ฝรั่งเศส เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ สเปน และสวิตเซอร์แลนด์ ก็เป็นประเทศชั้นนำเช่นกัน

สิ่งที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ โปรโตคอล DeFi อย่าง dydx, Uniswap, Instadapp ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขณะที่แพลตฟอร์มการซื้อขายแบบรวมศูนย์ยังคงเป็น Binance และ Coinbase

การกระจายอำนาจทางการเงินได้เติบโตขึ้นเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งการเติบโตเหล่านี้มาจากการเงินทุนที่ไหลเข้ามาจากนักลงทุนสถาบันที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2020 ที่ผ่านมา

ความสนใจของนักลงทุนสถาบันที่มีต่อสกุลเงินดิจิทัลคาดว่าจะทำให้ปริมาณการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นต่อไปในปีข้างหน้า นอกจากนี้การปราบปรามบิตคอยน์และนโยบายที่ไม่เป็นมิตรต่อสกุลเงินดิจิทัลของจีน มีแนวโน้มที่จะทำให้การเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) มีโอกาสที่จะเติบโตต่อไปได้อีกในอนาคต แม้ว่ายุโรปจะเริ่มเข้มงวดทางด้านกฎระเบียบมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ความชัดเจนด้านการธนาคารและกฎระเบียบที่มากขึ้นเหล่านี้อาจสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อคริปโตเคอร์เรนซี่ในระยะยาวได้