ความสนใจใน metaverse ที่เพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาในโลกเสมือนจริง (Virtual World) ที่หลายคนเชื่อว่าจะเป็นอนาคตของโซเชียลเน็ตเวิร์ก การทำงาน และความบันเทิง

Andrew Keagle ผู้ก่อตั้ง tokens.com ได้ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ถึงสาเหตุที่นักลงทุนบางคนยินดีจ่ายเงินหลายล้านดอลลาร์เพื่อแปลงที่ดินว่า

“ราคาได้เพิ่มขึ้น 400% ถึง 500% ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แม้ว่าที่ดินเหล่านี้จะไม่มีอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง แต่อยู่ใน metaverse และมีโอกาสมากมายอยู่ที่นั่น”

ซีอีโอกล่าวว่า “Metaverse เป็นยุคต่อไปของโซเชียลมีเดีย คุณสามารถไปชมการแสดงดนตรี คุณสามารถไปพิพิธภัณฑ์ ประสบการณ์หลากหลายประเภทที่คุณสามารถสำรวจและดื่มด่ำได้”

Janine Yorio ซีอีโอของ Republic Realm ซึ่งบริษัทได้ใช้เงินไป 4 ล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อที่ดินบน The Sandbox (SAND) เปิดเผยว่าเมื่อปีที่แล้ว เธอขายเกาะส่วนตัวกว่า 100 เกาะในราคา 15,000 ดอลลาร์ต่อผืนบนแพลตฟอร์ม

Yorio เปิดเผยว่า “วันนี้พวกเขาขายได้ประมาณสามแสนดอลลาห์ต่อหน่วย ซึ่งเท่ากับราคาบ้านโดยเฉลี่ยในอเมริกา” เลยทีเดียว

นอกจากนี้ Oren Alexander นายหน้าอสังหาริมทรัพย์กล่าวว่า

“โลกดิจิทัลสำหรับบางคนมีความสำคัญพอๆ กับโลกแห่งความเป็นจริง ดังนั้นมันไม่เกี่ยวกับสิ่งที่คุณและผมเชื่อ แต่เกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”

Keagle กล่าวเสริมว่า “มันเหมือนกับการซื้อที่ดินในแมนฮัตตันเมื่อ 250 ปีที่แล้ว ขณะที่เมืองกำลังถูกสร้างขึ้น”

Metaverse เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว หลังจากที่บริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook ประกาศรีแบรนด์เป็น Meta และเปลี่ยนไปใช้ Virtual Reality ท่ามกลางการระบาดของโควิด และทุกคนถูกกักตัวไว้แต่ในบ้านเป็นเวลานาน สิ่งนี้ได้จุดประกายให้เกิดความตื่นตัวในโลกดิจิทัลเลยทีเดียว