ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันพุธ (15 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเฟดในการควบคุมเงินเฟ้อโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,668.53 จุด พุ่งขึ้น 303.70 จุด หรือ +1.00%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,789.99 จุด เพิ่มขึ้น 54.51 จุด หรือ +1.46% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,099.15 จุด พุ่งขึ้น 270.81 จุด หรือ +2.50%
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 28 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2537
ใจความตอนหนึ่งของแถลงการณ์เฟดระบุว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ในระยะยาว ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดแถลงข่าวหลังการประชุมว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% หรือ 0.75% ในการประชุมเดือนก.ค. แต่เขาไม่ได้หมายความว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% จะกลายเป็นเรื่องปกติ
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกลดลง 0.3% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนเม.ย.
ทางด้านสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 2 จุด สู่ระดับ 67 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 โดยการร่วงลงของดัชนีดังกล่าวมีสาเหตุจากการพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองและต้นทุนในการก่อสร้าง
More Stories
ดาวโจนส์ปิดลบ 164.31 จุด วิตกกำไรแบงก์สหรัฐชะลอตัว
หุ้นทวิตเตอร์ร่วงหนักถึง 6% หลัง “อีลอน มัสก์” ล้มดีลซื้อกิจการ
ดาวโจนส์ปิดบวก 69.86 จุด นลท.ซึมซับรายงานประชุมเฟด