ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,421.93 จุด ลดลง 259.86 จุด หรือ -0.75% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,320.82 จุด ลดลง 37.31 จุด หรือ -0.86% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,559.78 จุด ลดลง 105.28 จุด หรือ -0.72%
นักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะไวรัสกลายพันธุ์ จะขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยล่าสุดรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงโตเกียวเป็นครั้งที่ 4 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 ก.ค.-22 ส.ค. โดยความกังวลดังกล่าวทำให้นักลงทุนพากันเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีดิ่งลงสู่ระดับ 1.25% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.
หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวลงทั้งหมด นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารที่ดิ่งลง 1.96% เนื่องจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรของภาคธนาคารในสภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ ทั้งนี้ หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 2.44% หุ้นเจพีมอร์แกน ดิ่งลง 1.78% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 2.40% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 2.62%
ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 373,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว จากระดับ 371,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 350,000 ราย
ดัชนีหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลง 1.46% ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและทั่วโลก โดยหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ร่วงลง 1.2% หุ้น 3M ลดลง 0.8% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ลดลง 0.95% หุ้นเรย์เธียน เทคโนโลยีส์ (Raytheon Technologies) ลดลง 0.43%
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่นหุ้นกลุ่มธุรกิจเรือสำราญและกลุ่มสายการบิน ปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ร่วงลง 1.08% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ร่วงลง 1.27% หุ้นเจ็ทบลู แอร์เวย์ส ลดลง 0.62% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ร่วงลง 1.52% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ ร่วงลง 1.28%
นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยังได้ฉุดหุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มผู้ผลิตชิปร่วงลงด้วย โดยหุ้นโฮมดีโปท์ ร่วงลง 1.48% หุ้นนอร์ดสตรอม ดิ่งลง 2.99% หุ้นเบด บาธ แอนด์ บียอนด์ ร่วงลง 1.39% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ร่วงลง 1.42% หุ้นควอลคอมม์ ดิ่งลง 1.2% หุ้นอินเทล ร่วงลง 1.02% หุ้น Nvidia ร่วงลง 2.3%
หุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากรัฐบาลจีนเดินหน้าตรวจสอบบริษัทจีนที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ โดยหุ้นตีตี โกลบอล (Didi Global) ร่วงลง 5.88% หุ้นอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง ร่วงลง 3.92% หุ้น Trip.com Group ดิ่งลง 3.43% หุ้นไป่ตู้ Baidu ร่วงลง 3.74%
More Stories
ธนาคารอินโดนีเซียประเมินอิทธิพลของ CBDC อีกครั้ง
ดาวโจนส์ปิดลบ 164.31 จุด วิตกกำไรแบงก์สหรัฐชะลอตัว
ธนาคารกลางไต้หวันคาดเงินดิจิทัลจะพัฒนาเสร็จภายใน 2 ปี