หลังจากได้ออกมาเผยแพร่รายงานผลประกอบการทางการเงินฉบับล่าสุด ค่ายเกมชื่อดังจึงได้ทำการสำรวจผ่านการไลฟ์สดในหัวข้อ Q&A ที่ได้มีการพูดคุยกันถึงประเด็นการนำ Blockchain และ Non-Fungible Token (NFT) มาใช้ร่วมกับวิดีโอเกมขององค์กร ซึ่งในท้ายที่สุดทางบริษัทได้พบว่าผู้เล่นต่างก็ให้ความสนใจในศักยภาพของ Metaverse จึงทำให้แฟนเกมเริ่มเล็งเห็นถึงความเป็นไปได้ที่ Nintendo อาจใช้ NFT มาพัฒนาประสบการณ์ในการเล่นเกม

David Gibson นักวิเคราะห์อาวุโสแห่ง MST Financial ได้ตั้งคำถามผ่านโพสต์ทวิตเตอร์ถึงค่ายเกมยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นเกี่ยวกับประเด็น Metaverse และ NFT ซึ่งทาง Nintendo ได้ออกมายืนยันว่าทางบริษัทยังไม่ได้เตรียมการที่จะนำเทคโนโลยีเหล่านั้นเข้ามาใช้ในตอนนี้ แต่ทว่าทางองค์กรก็เผยว่ากำลังมองหาโอกาสในการนำ Blockchain หรือสินทรัพย์ดิจิทัล เข้ามาใช้กับผู้เล่นอยู่เช่นเดียวกัน เนื่องมาจากในระยะเวลา 9 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากการขาดแคลนทรัพยากรประเภทชิปคอมพิวเตอร์ ที่ได้เข้ามาเป็นอุปสรรคในกระบวนการการผลิต ทำให้ทางบริษัทต้องสูญเสียกำไรไปกว่า 2.5%

ผู้คนมากมายต่างก็เฝ้าจับตามองว่า Nintendo เตรียมจะมอบอะไรให้กับผู้เล่น และแฟนเกมของพวกเขาเพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าค่ายเกมรายใหญ่ยังคงระมัดระวังที่จะออกมาเผยให้ผู้คนทราบถึงความเป็นไปได้ที่จะนำ NFT มาใช้ หรือ มาผสมผสานเข้าไปภายในอาณาจักร Metaverse

อย่างไรก็ตาม นับว่าเป็นเรื่องน่าเสียสำหรับ Nintendo ผู้ผลิต และพัฒนาเกมชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Pokemon, Super Mario และ Zelda ที่เพิ่งเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าวในช่วงที่บริษัทเกมเจ้าใหญ่รายอื่น ๆ ได้ทดลองเปิดตัวโปรเจกต์เกม Blockchain ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อย่างที่ทราบกันดีว่า Ubisoft กลายเป็นองค์กรที่มีความตื่นตัวกับตลาดดิจิทัลมากที่สุดแห่งหนึ่ง ผลงานล่าสุดคือการพัฒนาแพลตฟอร์ม NFT ที่เรียกว่า Ubisoft Quartz พร้อมเปิดตัว NFT ประจำแพลตฟอร์มในชื่อ Digits รวมไปถึงการร่วมมือกับ Konami ผู้สร้างเกม Castlevania เปิดตัวคอลเลกชัน NFT ที่สร้างรายได้ทะลุ 5.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว

นอกจากนี้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Microsoft ซื้อกิจการ Activision Blizzard ไปด้วยมูลค่ากว่า 6.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้ทางองค์กรมอบหมายให้ Xbox เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม Metaverse