ในปัจจุบันนี้ กระแสการลงทุนในคริปโตมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่เว้นแม้แต่ประเทศที่เน้นไปทางด้านการเกษตรและประชากรส่วนใหญ่ล้วนประกอบอาชีพเกษตรกรรมอย่างประเทศเคนยา

มีรายงานเผยว่า ชาวเกษตรกรในประเทศเคนยาส่วนใหญ่ตอนนี้เริ่มยอมรับการชำระเงินด้วยรูปแบบของเหรียญคริปโตแล้ว ในขณะที่บางคนยอมรับการซื้อสินค้าด้วยเหรียญคริปโตแล้วเช่นกัน ซึ่งประเทศเคนยานับเป็นอีกประเทศหนึ่งที่เริ่มมีการเดินหน้าเรื่องเทคโนโลยีการเงินมากขึ้น

ในส่วนนี้เห็นได้ชัดว่า ผู้คนในเคนยาเริ่มให้ความสำคัญกับระบบการเงินทางเลือกมากขึ้น นั่นเป็นเพราะว่าผู้ใช้รู้สึกว่ามันมีความปลอดภัยมากกว่าเงินกระดาษ ยกตัวอย่างเช่น เกษตรกรวัย 26 ปี ชื่อ Emmanuel Kahindi เขาได้พูดถึงข้อดีของระบบสกุลเงินดิจิทัลว่า เปลี่ยนชีวิตของเขายังไงบ้าง

เขาให้สัมภาษณ์ว่า เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ช่วยเขาได้มาก โดยเฉพาะเรื่องการเก็บออมเงิน โดยเขาได้ใช้เหรียญ sarafu ในการซื้อสินค้าทำการเกษตรอย่างเช่นเมล็ดพันธุ์กับปุ๋ย

เหรียญคริปโต sarafu เป็นเหรียญชนิดหนึ่งที่มีการรับรองว่า สามารถนำมาใช้ในการแลกเปลี่ยนซื้อสินค้าหรือบริการได้ และชาวเคนยาทุกคนที่มีโทรศัพท์มือถือนั้น สามารถลงทะเบียนใช้งานได้เลย ในการลงทะเบียน ผู้ใช้จะได้รับเหรียญ sarafu 50 เหรียญฟรี ซึ่งผู้ใช้ก็สามารถนำเหรียญไปซื้อสินค้าหรือบริการกับผู้ใช้อีกคนหนึ่งได้เลย

ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกัน Will Ruddick ที่ได้สนับสนุนให้มีการใช้ระบบแบบนี้รองรับผู้บริโภคที่มีรายได้ต่ำ เขาบอกว่า สกุลเงินประเทศเคนยายังอยู่ในภาวะย่ำแย่ ซึ่งระบบนี้จะช่วยเติมช่องว่างให้กลายเป็นสกุลเงินระดับประเทศจนเกิดความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะแยกออกมาเป็นอีกระบบหนึ่ง จากที่สกุลเงินของประเทศไม่สามารถนำมาซื้อขายสินค้าหรือบริการหลาย ๆ อย่างได้

ในอีกด้านหนึ่ง นักวิชาการชาวเคนยาบางคนยอมรับในเหรียญ sarafu เพราะพวกเขาคิดว่า เหรียญคริปโตประเภทนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ในประเทศอื่น ๆ ที่อยู่ในทวีปแอฟริกาได้ต่อไปในอนาคต