เผยงานวิจัยภายในปี 2022 Amazon เตรียมที่จะแซงหน้า Walmart ขึ้นแทนเป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐฯ
ตามรายงานการวิเคราะห์ของบริษัท ระบุว่า ธุรกิจค้าปลีกของ Amazon ในสหรัฐฯ เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงระหว่างปี 2014-2020 โดยปริมาณสินค้ารวมมีความใกล้เคียงกับตัวชี้วัดที่ใช้วัดผลสินค้ารวมทั้งหมด ซึ่งการเติบโตอย่างรวดเร็วของ Amazon มาจากปัจจัยยอดค้าปลีกที่ปรับตัว และอีคอมเมิร์ซ ในสหรัฐฯ
อีกทั้ง การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้อีคอมเมิร์ซกลายเป็นช่องทางซื้อสินค้า และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ Amazon เป็นธุรกิจที่เข้ามายึดพื้นที่ค้าปลีก โดยผู้บริโภคที่ต้องอยู่บ้านหันเข้าไปค้นหาสินค้าผ่านแพลตฟอร์มของ Amazon ตั้งแต่กระดาษชำระไปจนถึงอุปกรณ์ออกกำลังกาย
ยอดขายสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ของ Amazon ช่วยให้ตลาดอีคอมเมิร์ซเติบโตตาม โดย JPMorgan ประมาณการว่า Amazon จะขยายส่วนแบ่งตลาดอีคอมเมิร์ซในสหรัฐฯ อยู่ที่ 39% ในปี 2020 เพิ่มขึ้นจากปี 2014 ที่มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 24%
นอกจากนี้ การปรับตัวอย่างรวดเร็วของอีคอมเมิร์ซยังส่งผลดีต่อธุรกิจอื่น ๆ ของ Amazon อีกด้วย สอดคล้องกับการวิเคราะห์ของธนาคารแห่งสหรัฐฯ ที่มองว่า Amazon กำลังมุ่งสู่การเป็นบริษัทขนส่งเดลิเวอรียักษ์ใหญ่ เช่นเดียวกับ MWPVL International บริษัทที่ปรึกษาด้านซัพพลายเชน และโลจิสติกส์ วิเคราะห์ว่า Amazon จะมีการส่งมอบพัสดุ 7 พันล้านชิ้นในปี 2021
Amazon ไม่หยุดเพียงแค่นั้นบริษัทยังสร้างระบบการขนส่งสินค้าขึ้นมาสู้กับคู่แข่ง UPS, FedEx และ the U.S. Postal Service เพื่อเชื่อมโยงกับคลังสินค้าที่มีเครือข่ายเพิ่มมากขึ้น สถานีขนส่งสินค้าที่ครอบคลุมระบบโลจิสติกส์ ทั้งเครื่องบิน, รถบรรทุก และรถตู้
More Stories
ดาวโจนส์ปิดลบ 164.31 จุด วิตกกำไรแบงก์สหรัฐชะลอตัว
หุ้นทวิตเตอร์ร่วงหนักถึง 6% หลัง “อีลอน มัสก์” ล้มดีลซื้อกิจการ
ดาวโจนส์ปิดบวก 69.86 จุด นลท.ซึมซับรายงานประชุมเฟด