การพลิกกลับขึ้นมาเอาชนะคริปโตเคอร์เรนซีชื่อดังอย่าง Ripple (XRP) ได้นั้น แน่นอนว่ามีปัจจัยมากมายที่มีส่วนช่วยส่งผลให้ราคา ADA ทะยานขึ้นมากว่า 30% ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอัปเดทครั้งใหญ่ของ Cardano หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ Vasil Hard Fork ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ เรามาตามดูกันดีกว่าว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อราคาเหรียญอย่างไร
Cardano (ADA) มีราคาเพิ่มขึ้นเกือบ 50% จนสามารถทะยานขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 0.67 ดอลลาร์สหรัฐได้ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ผ่านระดับต่ำที่สุด ณ ราคา 0.45 ดอลลาร์สหรัฐ ที่บรรดานักลงทุน และวาฬในตลาดแห่ช้อนเหรียญกันเป็นจำนวนมากไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคา ADA ทะยานขึ้นมาได้มากถึงเพียงนี้นั้น ก็มีสาเหตุมาจากค่า Total Value Locked (TVL) ที่พุ่งขึ้นมาอย่างมหาศาลในช่วง 2 วันที่ผ่านมา รวมไปถึงจำนวน NFT ที่พุ่งทะลุ 5 ล้านชิ้นที่ถูกมินต์บนเครือข่ายของ Cardano ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผลักให้ราคาทะลุแนวต้านขึ้นมาได้อย่างขาดลอยอีกด้วย
แน่นอนว่า การจะทำให้เหรียญราคาทะยานขึ้นมาได้ ไม่ได้พึ่งพาแค่เพียงโชคเท่านั้น จะเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทีมงานของ Cardano ต่างก็พยายามที่จะพัฒนาโปรเจกต์จำนวนหลายรายการด้วยกัน เพื่อที่จะช่วยกอบกู้สถานการณ์ในช่วงที่ราคากำลังร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแน่นอนว่า ในท้ายที่สุดทาง Santiment ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์มทวิตเตอร์ระบุถึงหนึ่งในโปรเจกต์ที่ทางทีมงานได้พัฒนาบนแพลตฟอร์ม GitHub สามารถไต่ขึ้นไปสร้างสถิติสูงสุดตลอดกาล (All-time high – ATH) ได้อย่างรวดเร็ว ในวันที่ 31 พฤษภาคม โดยเขาได้ออกมากล่าวเพิ่มเติมว่า
“Cardano เป็นหนึ่งในเหรียญ Altcoin ที่เริ่มต้นได้ดีในสัปดาห์นี้ หลังสามารถเพิ่มมูลค่าขึ้นมาได้กว่า 13% ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 24 ชั่วโมง ซึ่งการพัฒนาในครั้งนี้ได้ส่งผลทำให้เหรียญสามารถแตะระดับสูงสุดได้ ต้องขอขอบคุณทีมงานของ ADA ที่ช่วยกันทำหน้าที่พัฒนานวัตกรรมอย่างดีเยี่ยมในขณะที่ราคานั้นร่วงลงมา”
ยิ่งไปกว่านั้น อีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยผลักให้ราคา ADA ทะยานขึ้นมามากขนาดนี้ได้นั้น ก็คงจะหนีไม่พ้นการเปิดตัว Cardano-Ethereum Bridge สำหรับ USDC ภายใต้ชื่อ Iagon ที่จะช่วยให้การเคลื่อนย้าย Ethereum คริปโตเคอร์เรนซีรายใหญ่อันดับที่ 2 ของโลกไปยังเครือข่าย Blockchain ของ Cardano ทำได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเรียกได้ว่าการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายขีดความสามารถของเครือข่ายออกไปอีก จนสามารถปลุกกระแสความสนใจจากผู้เล่นในตลาดคริปโตได้อย่างล้นหลามนั่นเอง
More Stories
Celsius ยื่นล้มละลายอย่างเป็นทางการแล้ว
รัสเซียเห็นชอบร่างกฎหมายการขุดเหมืองเหรียญคริปโตแล้ว
SK Telecom บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ประกาศเตรียมสร้างกระเป๋าเงิน Web 3