จากเหตุการณ์ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา Binance ระงับการให้บริการแลกเปลี่ยน crypto ซึ่งทางบริษัทกำลังดำเนินการเพื่อหาทางออกของความเสียหายของผู้ใช้บริการจากเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ยังมีจำนวนผู้ใช้บริการอีกมากกำลังมองหาความรับผิดชอบจากความเสียหายเนื่องจากเหตุการณ์นั้น

รายงานจาก CNBC โฆษกของ Binance ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความเสียหายและนโยบายการชดเชยให้ผู้ใช้ที่ขาดทุนโดยตรงเนื่องจากการขัดข้องของระบบภายในในครั้งนั้น โดยระบุว่านโยบายดังกล่าวไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากสมมติฐานที่ว่า พวกเขาจะได้กำไรหากระบบไม่เกิดการขัดข้อง ซึ่งฝ่ายบริการลูกค้าจะเสนอเงินคืนขั้นต่ำเพื่อชดเชยค่าเสียหาย 

เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Binance ระงับการให้บริการแลกเปลี่ยน crypto ทุกประเภท ได้แก่ การฝาก การถอน การซื้อขายสปอตและมาร์จิ้น การซื้อขาย OTC พอร์ทัล การซื้อขาย P2P การออมและการไถ่ถอน ตลอดจนการโอนสินทรัพย์จากบัญชีย่อย บัญชีมาร์จิ้น บัญชีซื้อขายล่วงหน้า และกระเป๋าเงินคำสั่งเนื่องจากมีการเข้าชมเว็บเพิ่มขึ้น 60% 

CEO ของ Binance Changpeng Zhao ได้ประกาศรับบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎระเบียบ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับการการให้บริการภายใต้กฎระเบียบของหน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศ เนื่องจากบริษัทกำลังเผชิญกับการตรวจสอบด้านกฎระเบียบจากหน่วยงานต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงเนเธอร์แลนด์ มาเลเซีย และเกาหลีใต้อีกด้วย

ในขณะเดียวกัน Binance ยังได้ดำเนินการจำกัดในเชิงรุกของการซื้อขายที่มีเลเวอเรจสูงไปจนถึงการจำกัดการซื้อขายอนุพันธ์อย่างสมบูรณ์ เพื่อลดโอกาสของการซื้อขายที่มีความเสี่ยงสูงที่อาจเกิกขึ้นกับผู้ใช้บริการและเพื่อตอบสนองต่อกฎข้อบังคับของหน่วยงานกำกับดูแล