“PolyNetwork” แพลตฟอร์มผู้ให้บริการโอนข้ามเหรียญระหว่างเครือข่าย (Bridge Protocol) ชื่อดังได้ออกมาประกาศว่าโดนโจมตีจากแฮ็กเกอร์ (Hacker) โดยการแฮ็กครั้งนี้ สูญเสียเงินไปกว่า 600 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นการโดนแฮ็ก ที่สูญเสียเงินมากที่สุด เท่าที่แพลตฟอร์ม Decentralized Finance เคยโดนมา
หลังจากการโดนโจมตีดังกล่าว ทางทีมงาน Poly Network ได้ออกมาเปิดเผย “Wallet Address” ของแฮกเกอร์ พร้อมขอความร่วมมือจากเหล่านักขุด (Miner) และ Exchange ต่าง ๆ แบน (Banned) เหรียญที่อาจถูกส่งมาจาก Wallet ของแฮกเกอร์ ซึ่งทางบริษัท Tether ซึ่งเป็นเจ้าของเหรียญ USDT ได้ทำการ freeze (ล็อค) เหรียญ USDT กว่า 33 ล้านดอลลาร์ ที่แฮกเกอร์ได้ไปทันที
อีกทั้งทาง PolyNetwork ยังพยายามเจรจากับ Hacker ให้นำเงินมาคืน เพราะว่าหากไม่คืนก็จะกลายเป็นคดีอาญาที่ร้ายแรง อีกทั้งตอนนี้ Wallet ของแฮกเกอร์ก็กำลังถูกจับตามองอยู่ด้วย
นอกจากนี้ แฮกเกอร์ยังทำการส่งข้อความ เพื่อสื่อสารกับบุคคลภายนอก ไม่ว่าจะเป็นการเปิดขอรับบริจาคสำหรับผู้ที่เห็นด้วยกับการเจาะระบบในครั้งนี้ รวมถึงถามวิธี Unlock USDT พร้อมทั้งแจ้งว่าจะทำการคืนเงินให้ทั้งหมด โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2564 ทาง Hacker ได้ทำการคืนเงินแล้วทั้งหมด ขาดเพียงเหรียญ USDT 33 ล้านเหรียญ ที่ยังไม่สามารถทำธุรกรรมใด ๆ ได้
จะเห็นได้ว่ามีการโดนโจมตีจาก Hacker ในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นประจำ ซึ่งทาง “Kyros Venture” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลการถูกแฮ็ก โดยจะเห็นว่าว่าเหตุการณ์ถูกแฮ็ก “MTGOX” Exchange เมื่อช่วงต้นปี 2014 ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิทคอยน์ปรับตัวร่วงลงในทันที แต่เมื่อเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ “PolyNetwork” ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ได้มีการปรับตัวร่วงลงแรงเช่นนั้น แสดงถึงเสถียรภาพของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
More Stories
Celsius ยื่นล้มละลายอย่างเป็นทางการแล้ว
เฟดจ่อขึ้นดอกเบี้ยแรง 1% ในการประชุมเดือนนี้ หลังเงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด
รัสเซียเห็นชอบร่างกฎหมายการขุดเหมืองเหรียญคริปโตแล้ว