นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐคาดการณ์ว่า เนื่องมาจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาด แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อรายปียังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่อัตราเงินเฟ้อรายเดือนของสหรัฐจะชะลอตัวลงภายในสิ้นปี 2564
เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังจากเดินทางไปยังสำนักงานบริการสังคมในรัฐแอตแลนต้า นางเยลเลนเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว เธอยังคงเน้นย้ำมุมมองที่ว่า อัตราเงินเฟ้อที่สูงมากในปัจจุบันนี้ เป็นผลกระทบจากภาวะติดขัดด้านอุปทาน และจากอุปสงค์ด้านการใช้จ่ายที่กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว
นางเยลเลนกล่าวว่า “แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อรายเดือนปรับตัวลดลง เราก็จะยังคงเห็นอัตราเงินเฟ้อรายปีพุ่งขึ้นในบางช่วงเวลา แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ดิฉันคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ อัตราเงินเฟ้อรายเดือนจะชะลอตัวลงสู่ระดับที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มองว่ามีเสถียรภาพ”
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า CPI หรือ ดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในเดือนมิ.ย. ดีดตัวขึ้น 0.9% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2551 และยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.5% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนพ.ค.
หากเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 5.4% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2551 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.0% หลังจากเพิ่มขึ้น 5.0% ในเดือนพ.ค.
ส่วนดัชนี CPI ประจำเดือนก.ค.นั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันที่ 11 ส.ค.นี้ในเวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย
More Stories
ธนาคารอินโดนีเซียประเมินอิทธิพลของ CBDC อีกครั้ง
เฟดจ่อขึ้นดอกเบี้ยแรง 1% ในการประชุมเดือนนี้ หลังเงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด
ธนาคารกลางไต้หวันคาดเงินดิจิทัลจะพัฒนาเสร็จภายใน 2 ปี