Meta ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังอย่าง Facebook ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่าโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล Novi ที่พวกเขาอุตส่าห์ซุ่มพัฒนามานานนับปี จะ “ไม่ได้ไปต่อ” เสียแล้ว หลังจากออกสู่ตลาดให้ผู้คนทดลองใช้เพียง 10 เดือนเท่านั้น ทั้งนี้การประกาศล่าสุดตามมาด้วยการแนะนำให้ผู้ใช้ทำการถอนเงินของพวกเขาออกจากกระเป๋าคริปโตใบนี้โดยเร็วที่สุดอีกด้วย
บริษัทเทคโนโลยีสื่อสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ได้กล่าวในการแถลงการณ์ว่า นับตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ เหล่าผู้ใช้ Novi จะไม่สามารถเติมเงินเข้าบัญชีของตนได้ และเมื่อโครงการนำร่องของ Novi wallet สิ้นสุดลง ผู้ใช้ก็จะไม่สามารถเข้าถึงประวัติการทำธุรกรรม และข้อมูลอื่น ๆ ได้อีกด้วย มิหนำซ้ำบัญชี WhatsApp ของ Novi และแอป Novi ก็จะไม่สามารถใช้งานได้ไปตลอดกาล
แม้การจากลาในครั้งนี้จะค่อนข้างกระทันหัน แต่อย่างไรก็ตาม Meta กล่าวว่าจะพยายามให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในการโอนเงินทั้งหมดที่เหลืออยู่ใน Wallet ไปยังบัตรเดบิตของลูกค้า และบัญชีธนาคารหลังจากวันสุดท้ายของการดำเนินการของ Novi
หากเรานับเวลาการเดินทางตั้งแต่แรกเริ่มเปิดตัวแผนโครงการ Stablecoin นามว่า Libra อันแสนทะเยอทะยานมาจนถึงการปิดกระเป๋าเงิน Novi อย่างถาวร ทั้งหมดนั้นใช้เวลาเพียงแค่สามปีเท่านั้น
ทั้งนี้ สำหรับไฮไลต์สำคัญในการดำเนินงานของพวกเขาจะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ Novi กระเป๋าเงินดิจิทัลของ Facebook ได้ออกมาโลดแล่นในโลกของความเป็นจริงผ่านเปิดตัวโครงการทดสอบนำร่องเพื่อทดสอบการใช้งานในสองประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา และกัวเตมาลา
การทดสอบครั้งดังกล่าวทำให้ Novi ได้มีโอกาสทดลองการใช้งานฟังก์ชันหลักทั้งหมด และประเมินสิ่งที่จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่ง ณ ขณะทำการทดสอบ กระเป๋าเงินคริปโตเคอเรนซี Novi ได้ใช้งาน Stablecoin อย่าง Pax Dollar เป็นสกุลเงินหลักในระหว่างการทดสอบ โดยมีเป้าหมายสุดท้ายที่จะเปิดตัวสกุลเงิน Stablecoin ของพวกเขาเองอย่าง Diem หากได้รับไฟเขียวจากหน่วยงานกำกับดูแลของ Washington
ไม่นานหลังจากที่ Facebook เปิดตัวโครงการนำร่องกระเป๋าเงิน Novi วุฒิสมาชิกระดับสูงของสหรัฐฯ นำโดย Elizabeth Warren รวมถึง Brian Schatz, Tina Smith, Richard Blumenthal และ Sherrod Brown ได้ออกมาเรียกร้องให้ “ปิด” กระเป๋าเงิน Crypto ใบนี้แบบแทบจะทันที โดยวุฒิสมาชิกทั้งห้าคนได้ทำการส่งจดหมายถึง Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง และ CEO ของ Facebook ที่ซึ่งมีการระบุข้อกังวลของพวกเขาเกี่ยวกับความสามารถของบริษัทโซเชียลมีเดียในการต่อสู้กับการฟอกเงิน ปกป้องผู้บริโภค และติดตามความปลอดภัย และความเสี่ยงทางการเงินอื่น ๆ
ด้วยมวลความกดดันอันมหาศล ทำให้ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้ Stuart Levey ซีอีโอของ Diem ซึ่งเข้ารับตำแหน่งได้ไม่นานก็จำต้องประกาศยุติความฝันของ Diem และ ประกาศขายทรัพย์สินของ Diem ซึ่งถูกซื้อไปโดยธนาคาร Silvergate Capital ในราคา 200 ล้านดอลลาร์
แม้ว่า Meta จะตัดสินใจยุติโครงการนำร่อง Novi ไปแล้ว แต่บริษัทกล่าวว่าพวกเขามีแผนที่จะนำเทคโนโลยีที่พวกเขามีในมือไปใช้เป็นหัวใจสำหรับผลิตภัณฑ์ในอนาคต ซึ่งรวมถึงการสร้าง Metaverse
ในแถลงการณ์ทางอีเมล Meta กล่าวว่า:
“เราได้ใช้เวลาหลายปีในการทำให้ Meta มีความสามารถอุตสาหกรรมบล็อกเชน และสามารถแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ได้ เช่น ของสะสมดิจิทัล คุณสามารถคาดหวังที่จะเห็น Meta ไปโลดแล่นในพื้นที่ใหม่ ๆ อย่าง Web3 เนื่องจากเรามองเห็นถึงคุณค่าที่เทคโนโลยีเหล่านี้สามารถนำมาสู่ผู้คน และธุรกิจใน Metaverse”
ณ ปัจจุบันนี้ Meta ได้เริ่มสำรวจความพยายามในการสนับสนุน NFT บนแพลตฟอร์มของตนแล้ว
More Stories
Celsius ยื่นล้มละลายอย่างเป็นทางการแล้ว
รัสเซียเห็นชอบร่างกฎหมายการขุดเหมืองเหรียญคริปโตแล้ว
SK Telecom บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ประกาศเตรียมสร้างกระเป๋าเงิน Web 3