สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ธนาคารกลางฟิลิปปินส์อาจคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป จากอัตราเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนของฟิลิปปินส์ที่ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 6 เดือน เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19

สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ เปิดเผยในวันนี้ว่า ในเดือนมิ.ย.ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ขยายตัว 4.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เพราะได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลงของต้นทุนการเดินทาง และยังเป็นการชะลอตัวลงจากเดือนพ.ค.ที่มีการขยายตัว 4.5%

ดัชนี CPI เดือนมิ.ย.อยู่ใกล้เคียงกับจุดต่ำสุดที่ธนาคารกลางคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.9%-4.7% หรืออยู่ที่ 4.3%
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงานที่มีความผันผวนสูงอยู่ที่ระดับ 3.0% ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 3.3% ในเดือนพ.ค.

สำหรับในช่วงครึ่งปีแรก 2564 อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ 4.4% ซึ่งอยู่เหนือระดับเป้าหมายของธนาคารกลางที่ 2%-4%

นายเบนจามิน ดิออคโน ผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) ระบุว่า ความเสี่ยงที่จะมีต่อแนวโน้มเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่มีความสมดุล พร้อมกล่าวว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอาจช่วยชดเชยอุปสงค์ในประเทศที่เศรษฐกิจอ่อนแอเนื่องจากมาตารควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19

ที่ผ่านมานั้น ธนาคารกลางได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ระดับ 2.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เดือนพ.ย. 2563 ธนาคารกลางฟิลิปปินส์จะทำการทบทวนการกำหนดนโยบายการเงินทุก ๆ 6 สัปดาห์ และจะจัดการประชุมนโยบายครั้งต่อไปในวันที่ 12 ส.ค. เพื่อหวังฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19