ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางไนจีเรีย (The Central Bank of Nigeria – CBN) ได้ประกาศให้ธนาคารต่าง ๆ ยกเลิกบริการการแลกเปลี่ยนคริปโตภายในประเทศ โดยอ้างว่ากังวลถึงปัญหาที่จะตามมา เช่น ความผันผวน, การฟอกเงิน และการกระทำผิดด้านการเงินที่อาจจะก่อตัวเพิ่มมากขึ้น
ตามการรายงานข่าวของสำนักข่าวท้องถิ่นแห่งประเทศไนจีเรียเมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน ระบุว่า J.Y. Mammanand คณะกรรมการกำกับดูแลด้านการเงินได้ออกมาประกาศให้ธนาคารกลางดำเนินการปิดบัญชีของนักเทรดคริปโต 2 รายลง โดยอ้างว่าเป็นการทำตามคำสั่งทางราชการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และย้ายเงินในบัญชีเดิมของนักเทรดเหล่านั้นไปยัง “บัญชีพัก (Suspense Accounts)”
นอกจากนี้ CBN กำลังเตรียมเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของตนเอง โดยใช้ชื่อว่า eNaira หลังได้รับการอนุมัติจากศาลสูงของประเทศในเดือนตุลาคม โดยเหรียญดังกล่าวได้ถูกสร้างขึ้นมาให้กลายอีกหนึ่งทางเลือกที่รวดเร็วกว่า ถูกกว่า และ ปลอดภัยกว่าในการทำธุรกรรมทางการเงิน แต่ทว่าทางธนาคารกลางจะยังคงนำมาใช้ร่วมกับสกุลเงินสดของประเทศควบคู่กันไป
สาเหตุที่หน่วยงานกำกับดูแลธนาคารได้ออกมาดำเนินการปราบปรามครั้งใหญ่ เนื่องจากกังวลถึงปัญหาราคาที่ผันผวน, การฟอกเงิน และการฉ้อโกงต่าง ๆ ที่อาจจะตามมาได้ในภายหลัง ทางด้าน Godwin Emefiel ผู้ว่าการแห่ง CBN ก็ได้ออกมากล่าวเสริมถึงสาเหตุของการกระทำดังกล่าวเช่นเดียวกัน เขาระบุว่าธุรกรรม Crypto ส่วนใหญ่ที่ดำเนินการผ่านธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศนั้นยังนับว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายอยู่
แม้ว่าทางธนาคารกลางได้ออกมาประกาศสั่งห้ามอย่างเอาจริงเอาจังแล้วก็ตาม แต่ทว่าตลาด Crypto ในประเทศไนจีเรียกับกลายเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในแอฟริกา โดยมีปริมาณการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,200% ในระหว่างเดือนกรกฎาคม ปี 2020 จนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2021 นอกจากนี้ยังมีรายงานในเดือนสิงหาคมระบุว่าตลาดคริปโตในประเทศถูกจัดให้เป็นตลาดซื้อขาย Bitcoin แบบ peer-to-peer ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2 อีกด้วย
More Stories
Celsius ยื่นล้มละลายอย่างเป็นทางการแล้ว
รัสเซียเห็นชอบร่างกฎหมายการขุดเหมืองเหรียญคริปโตแล้ว
SK Telecom บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ประกาศเตรียมสร้างกระเป๋าเงิน Web 3