มีรายงานว่าฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐเปิดต่ำลงเล็กน้อยในคืนวันอังคารหลังจาก S&P 500 สิ้นสุดแนวที่ชนะ 7 วันซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม
ฟิวเจอร์สเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 0.19% หรือ 66 จุด สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S&P 500 และ Nasdaq 100 ลดลง 0.14% และ 0.09% ตามลำดับ
ในช่วงเวลาปกติดัชนีดาวโจนส์ 30 หุ้นร่วงลง 0.6% หรือ 208.98 จุด S&P 500 สิ้นสุดวันลดลง 0.2% Nasdaq Composite เพิ่มขึ้นเกือบ 0.2% ดัชนีที่มีเทคโนโลยีสูงปรับตัวสูงขึ้นในวันอังคารเป็นประวัติการณ์
นักลงทุนบางกลุ่มอาจกังวลว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่จุดสูงสุดและการแก้ไขอาจเกิดขึ้นได้ นอกจากความพึงพอใจในตลาดแล้ว การรวมกันของแรงกดดันด้านกำไร, ความกลัวเรื่องเงินเฟ้อ, การลดลงของเฟด และภาษีที่สูงขึ้นนั้น เป็นไปได้อาจส่งผลให้เกิดการเบิกจ่ายในที่สุด นักยุทธศาสตร์การตลาดกล่าว
ในวันอังคารหุ้นที่เน้นการกู้คืนเช่น หนอนผีเสื้อ, เชฟรอน และ เจพีมอร์แกน เชส ดึงกลับ ในขณะที่หุ้นของ Big Tech อย่าง อเมซอน และ แอปเปิ้ลเพิ่มขึ้น หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 ปีก่อนติดลบ
อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีร่วงลง 7.2 จุด คิดเป็น 1.36% เนื่องจากนักลงทุนตอบสนองต่อศักยภาพของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง นั่นเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีอยู่ที่ 6.4 จุดพื้นฐานลดลงที่ 1.98%
เมื่อมีการเผยแพร่รายงานการประชุมล่าสุดในบ่ายวันพุธ ทำให้นักลงทุนฟังเบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับทิศทางของนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) ซึ่งอาจเป็นตัวเร่งให้เกิดการเคลื่อนไหวทั้งในพันธบัตรและหุ้น
รายงานการประชุมของเฟดคาดว่าจะไม่สอดคล้องกับความต้องการของธนาคารกลางที่กำลังมองหาความคืบหน้าในตลาดแรงงานและไม่ต้องกังวลว่าอัตราเงินเฟ้อล่าสุดจะกลายเป็นแนวโน้มที่คงอยู่ การซื้อพันธบัตรที่ชะลอตัวลงถือเป็นการผ่อนคลายครั้งใหญ่ครั้งแรกของเฟดจากนโยบายที่เกิดขึ้นเมื่อเศรษฐกิจปิดตัวลงในปีที่แล้ว
การสิ้นสุดของเฟดที่มีมูลค่า 120 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือนในการซื้อคลังและการจำนองนั้น จะเป็นสัญญาณว่าการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของธนาคารกลางอาจเป็นการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น
More Stories
เฟดจ่อขึ้นดอกเบี้ยแรง 1% ในการประชุมเดือนนี้ หลังเงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด
ดาวโจนส์ปิดลบ 164.31 จุด วิตกกำไรแบงก์สหรัฐชะลอตัว
หุ้นทวิตเตอร์ร่วงหนักถึง 6% หลัง “อีลอน มัสก์” ล้มดีลซื้อกิจการ