ตอนนี้ประเทศสิงคโปร์ไม่เพียงแค่จะทำการสกัดการทำธุรกรรมการเงินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ตอนนี้ทางสิงคโปร์เริ่มมีแผนที่จะทำการสกัดการดำเนินการทางด้านคริปโตเคอร์เรนซี่เพื่อเป็นการอุดช่องโหว่ในการคว่ำบาตร
การตัดสินใจครั้งนี้มาจากเรื่องของการที่ประเทศรัสเซียได้ตัดสินใจใช้กำลังทางทหารรุกรานประเทศยูเครนในฐานะที่เป็นประเทศเล็ก และเนื่องจากประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศขนาดเล็กเหมือนกัน ทำให้ประเทศสิงคโปร์เริ่มมองเห็นว่า ตนก็รู้สึกไม่ปลอดภัยด้วยเช่นกัน
เป็นครั้งแรกในหลายปีที่ทางด้านประเทศสิงคโปร์ตัดสินใจที่จะใช้มาตรการในการคว่ำบาตรประเทศอื่น ๆ โดยที่ไม่ได้มีการรับรองมติจากองค์กรสหประชาชาติหรือ UN สอดคล้องกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศสิงคโปร์ที่ได้ออกมากล่าวถึงการตัดสินใจในครั้งนี้ว่า ในฐานะที่ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศขนาดเล็ก นี่เป็นสิ่งที่ไม่ยอมรับได้ในทางทฤษฎี และการกระทำแบบนี้เป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นถึงภัยอันตราย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้สิงคโปร์ได้มีการประณามรัสเซียต่อการรุกรานประเทศยูเครน
การประกาศนี้ได้มีการตีพิมพ์เกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการควบคุมการส่งออกสินค้าที่สามารถใช้ในทางการทหารของรัสเซีย เช่นเดียวกับการระงับการทำธุรกรรมระหว่างธนาคารรัสเซียกับธนาคารสิงคโปร์ โดยที่สินทรัพย์ที่รัสเซียได้มีการฝากเอาไว้กับสิงคโปร์นั้น ได้มีการอายัดทรัพย์เอาไว้เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนั้นแล้วทางรัฐมนตรีเริ่มเล็งเห็นการหลั่งไหลของเหรียญคริปโตที่ชี้ให้เห็นว่า เป็นช่องโหว่สำคัญที่ทางผู้ให้บริการชำระเงินจะต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างเข้มงวด รวมไปถึงเหรียญ NFT ที่อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมได้ง่ายมากขึ้น และเป็นการใช้ช่องทางนี้ในการหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตร
ที่ผ่านมาประเทศสิงคโปร์สามารถทำการค้ากับรัสเซียคิดเป็นเงินมากถึง $3.7 พันล้าน โดยที่ประเทศสิงคโปร์ถือเป็นประเทศแรกในแถบอาเซียนที่ได้ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรกับประเทศรัสเซียอย่างแข็งกร้าว
More Stories
Celsius ยื่นล้มละลายอย่างเป็นทางการแล้ว
รัสเซียเห็นชอบร่างกฎหมายการขุดเหมืองเหรียญคริปโตแล้ว
SK Telecom บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ประกาศเตรียมสร้างกระเป๋าเงิน Web 3