นี่ไม่ใช่ครั้งแรกในปี 2021 ที่อัตราส่วนการครองตลาดของ Bitcoin (BTC) ร่วงลงมาในระดับนี้ ย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคมสำนักข่าวต่างประเทศรายหนึ่งได้ออกมาระบุว่า BTC มีอัตราส่วนลดลงเหลือเพียง 40.3% ของมูลค่าคริปโตทั้งหมดรวมกัน และ เริ่มเข้าใกล้ระดับเดิมในเดือนกันยายน ที่ผ่านมาอีกด้วย โดยล่าสุดอัตราส่วนการครองตลาดของ Bitcoin นั้นลดลงไปอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 40% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดตลอดกาลในเดือนมกราคม ปี 2018 ที่ระดับ 36.7%

อัตราส่วนการครองตลาดของ Bitcoin (BTC.D) หมายถึงอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างมูลค่าตลาด (Market Cap) ของ Bitcoin และ มูลค่าตลาดโดยรวมของคริปโตทั้งหมด

Peter Schiff นักวิจารณ์ Bitcoin และ ประธานแห่ง Europac ได้โพสต์ผ่านทวิตเตอร์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ที่ผ่านมา ระบุว่า Bitcoin กำลังสูญเสียตำแหน่งผู้นำในตลาดไปเป็นครั้งแรก

ก่อนหน้านี้ในวันที่ 27 ธันวาคม ที่ผ่านมาทาง TradingPlatforms ได้ออกมาเผยแพร่งานวิจัยขององค์กร ระบุว่า ฤดูกาลของ Altcoin ใกล้เข้ามาแล้ว โดยในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา อัตราการครองตลาด Altcoin เพิ่มขึ้นมากว่า 3 เท่า จากเดิม 21% ในปี 2014 ทั้งนี้อัตราส่วนการครองตลาด Ethererum (ETH) ยังคงสูงกว่า 20% หรือ เกือบ 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีที่ผ่านมา

นักวิเคราะห์คริปโตในชื่อ Altcoin Sherpa ได้โพสต์ทวิตเตอร์ในวันที่ 24 ธันวาคม อ้างว่า Alt season ได้เริ่มต้นขึ้นมาสักพักหนึ่งแล้ว หรือ เรียกได้ว่าตลอดทั้งปีเลยก็ว่าได้ โดยพวกเขาอ้างอิงจากการติดตามชาร์ตอัตราส่วนการครองตลาด Bitcoin ซึ่งบ่งชี้ว่าแนวโน้มขาลงของตลาดจะยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง

Noelle Acheson หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกแห่ง Genesis Trading ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่าน CNBC เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ระบุว่าเธอยังคงมองเห็นสัญญาณการเติบโตของการลงทุนคริปโตจากสถาบันต่าง ๆ อย่างแข่งแกร่งในช่วงปี 2022

เธอยังได้กล่าวเสริมอีกว่า ปริมาณการลงทุนของสถาบันที่เพิ่มมากขึ้นในอุตสาหกรรมคริปโตภายในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมานั้นเป็นเรื่องอัศจรรย์

ย้อนกลับไปในเดือนตุลาคม นักวิเคราะห์จาก JPMorgan ธนาคารรายใหญ่ระดับโลก ระบุว่าอุตสาหกรรม BTC ได้รับแรงหนุนจากความต้องการจากสถาบันการเงินที่สนใจเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนั้น โดยพวกเขาอ้างว่าสถาบันเหล่านี้ดูเหมือนจะกลับมาใช้ BTC ในการลงทุนอีกครั้ง เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากสภาวะเงินเฟ้อ ซึ่ง BTC นั้นย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าทองคำอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ข้อมูลจาก Glassnode บ่งชี้ว่า แม้อุปทาน BTC จะลดต่ำลงไปกว่า 32% ในระยะสั้น แต่ทว่าผู้ที่ถือสินทรัพย์ดังกล่าวในระยะยาวจะได้รับกำไรเพิ่มขึ้นกว่า 16% ในปีนี้