โดย จีน่า ลี
Investing.com – ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในเช้าวันพุธที่เอเชีย การพุ่งขึ้นข้ามคืนทำให้ค่าเงินยูโรและเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นในการซื้อขายช่วงต้น ควบคู่ไปกับข้อมูลการจ้างงานในสหราชอาณาจักรที่แข็งแกร่ง และความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ปรับตัวดีขึ้นโดยรวม ต้องขอบคุณข้อมูลยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ที่เป็นบวก และหวังว่าจีนจะคลายล็อกดาวน์จากโควิด-19
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์ที่ติดตามค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอื่น ๆ เพิ่มขึ้น 0.07% เป็น 103.25 เมื่อเวลา 01:22 น. ET (5:22 น. GMT)
USD/JPYทั้งคู่ขยับลง 0.15% มาที่ 129.19
AUD/USDทั้งคู่ขยับลง 0.07% มาที่ 0.7024 ในขณะที่ NZD/USDทั้งคู่ขยับขึ้น 0.06% เป็น 0.6365
USD/CNYทั้งคู่ขยับขึ้น 0.16% เป็น 6.7488 ในขณะที่ GBP/USDทั้งคู่ขยับลง 0.03% เป็น 1.2486
“เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นจากรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่งมากเมื่อวานนี้ และยิ่งไปกว่านั้น ความเชื่อมั่นในความเสี่ยงที่กว้างขึ้นในตลาดการเงินก็ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย โดยได้แรงหนุนจากข่าวเชิงบวกจากประเทศจีนเกี่ยวกับการล็อกดาวน์และข้อมูลที่แข็งแกร่งจาก สหรัฐฯ” Carol Kong นักยุทธศาสตร์ด้านสกุลเงินแห่งเครือจักรภพแห่งออสเตรเลีย กล่าวกับรอยเตอร์
เมืองเซี่ยงไฮ้ของจีนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้บรรลุเป้าหมายที่รอคอยมานานเป็นเวลาสามวันติดต่อกันโดยไม่มีผู้ป่วย COVID-19 รายใหม่นอกเขตกักกัน โดยทางการได้กำหนดตารางเวลาที่ชัดเจนที่สุดของเมืองสำหรับการออกจากการล็อกดาวน์เมื่อวันก่อน
สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น หุ้นพุ่งขึ้นในชั่วข้ามคืน และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยล่าสุดแตะระดับ 2.9878% อัตราผลตอบแทนของสหรัฐที่สูงขึ้นยังทำให้ค่าเงินเยนฟื้นตัวเพียงเล็กน้อย โดยค่าเงินของญี่ปุ่นมีความอ่อนไหวต่ออัตราของสหรัฐที่สูงขึ้น
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในงาน Wall Street Journal เมื่อวันอังคารว่าเฟดจะ “พยายาม” ให้นโยบายการเงินเข้มงวดขึ้น จนกว่าจะมีสัญญาณชัดเจนว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังชะลอตัว
More Stories
ธนาคารอินโดนีเซียประเมินอิทธิพลของ CBDC อีกครั้ง
ดาวโจนส์ปิดลบ 164.31 จุด วิตกกำไรแบงก์สหรัฐชะลอตัว
ธนาคารกลางไต้หวันคาดเงินดิจิทัลจะพัฒนาเสร็จภายใน 2 ปี