นับว่าเป็นฤดูกาลของเหรียญ Metaverse จริง ๆ ในขณะที่บิตคอยน์และ Ethereum ยังคงปรับตัวขึ้นอย่างยากลำบาก เราได้เห็นราคาเหรียญ Metaverse ที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เช่น Decentraland (MANA), The Sandbox (SAND) และ Efinity (EFI) ซึ่งโทเค็นทั้งหมดพุ่งขึ้นมากกว่า 25% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา!

ข้อมูลจาก CoinMarketCap แสดงให้เห็นว่า โทเค็น Metaverse มากกว่า 80% กำลังซื้อขายเป็นสีเขียวในสัปดาห์นี้

ผู้นำตลาดในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาคือ The Sandbox (SAND) สกุลเงินดิจิตอลเพิ่มขึ้นมากกว่า 110% ในสัปดาห์นี้ และไม่มีสัญญาณของการชะลอตัวใด ๆ  ราคากำลังซื้อขายเหนือ 8 ดอลลาห์ และแตะระดับสูงสุดใหม่ทุกวัน นอกจากนี้ยังเป็นโทเค็น play-to-earn (P2E) ที่ใหญ่เป็นอันดับสามในแง่ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอีกด้วย

Decentraland (MANA) 5.02 ดอลลาห์ +24.86%

Decentraland เป็นเหรียญ Metaverse ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในตลาด การเพิ่มขึ้นของราคาอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ Decentraland เป็นเหรียญ Metaverse ที่มีมูลค่าสูงสุดแซงหน้า Axie Infinity (AXS) ไปได้ นอกจากนี้โทเค็น MANA ได้แตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 5.90 ดอลลาร์ไปได้

จากข่าวล่าสุด Decentraland ได้ประกาศการซื้อขายที่ดิน Metaverse ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดย Tokens.com และ Metaverse Group ได้ซื้อที่ดิน 116 แปลง มูลค่ากว่า 2.4 ล้านดอลลาร์

Decentraland มีอุปทานรวมอยู่ที่ 2.19 พันล้านเหรียญ โดยมีอุปทานหมุนเวียนที่ 1.82 พันล้านเหรียญ ในขณะที่เขียน MANA มีปริมาณการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมงที่ 8.9 พันล้านดอลลาร์ โดยมีมูลค่าตลาดที่ 9.4 พันล้านดอลลาร์

The Sandbox (SAND) – 7.42 ดอลลาห์ +34.47%

Sandbox เป็นโปรเจ็กต์ Metaverse ที่ทุกคนจับตามองมากที่สุดในตลาด และไม่น่าแปลกใจเลยที่เราจะได้เห็นราคา SAND เพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา การเปิดตัวเกมอัลฟ่าของพวกเขาในวันที่ 29 พฤศจิกายน ทำให้ตลาดสนใจอย่างมาก

นอกจากนี้ The Sandbox ยังได้รับความสนใจจากบริษัทชื่อดังอย่าง Adidas ที่ได้เข้าสู่วงการคริปโต และกำลังจะร่วมมือกันในอนาคตอีกด้วย การเคลื่อนไหว Adidas สู่ ‘เครื่องแต่งกายแบบ metaverse’ อาจทำให้แบรนด์แฟชั่นให้ความสนใจตามไปด้วย 

SAND มีอุปทานรวมอยู่ที่ 3 พันล้านเหรียญ และมีอุปทานหมุนเวียน 892 ล้านเหรียญ ในขณะที่เขียน SAND มีปริมาณการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมงที่ 892 ล้านดอลลาร์ และมูลค่าตลาดที่ 6.8 พันล้านดอลลาร์