บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโตชื่อดังจากกรุงนิวยอร์ก ได้ออกมาประกาศเตรียมขยายธุรกิจเข้าไปยังกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา จากการที่ Gemini ร่วมมือกับธนาคารโคลอมเบียอย่าง Bancolombia ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุด โดยข้อตกลงการเป็นพันธมิตรจะเริ่มมีผลในวันที่ 14 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ และ จะอนุญาตให้บรรดาลูกค้าของธนาคารสามารถเทรดคริปโตได้ถึง 4 สกุลด้วยกัน ได้แก่ Bitcoin (BTC), Ether (ETH), Litecoin (LTC) และ Bitcoin Cash (BCH)
ผู้ใช้งานสามารถซื้อคริปโตได้โดยตรงจากบัญชีทางธนาคาร Bancolombia ผ่านแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนของ Gemini ที่พร้อมให้บริการโครงสร้างพื้นฐานในการแลกเปลี่ยน และ ดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีฝ่ายใดออกมาชี้แจงว่าลูกค้าจะสามารถถอนคริปโตที่พวกเขาถืออยู่ออกมาจากบัญชีได้โดยตรงเลยหรือไม่
ในงานแถลงข่าวการร่วมมือกันของ 2 องค์กรยักษ์ใหญ่เมื่อวันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา Gemini ได้ออกมาระบุว่า การเคลื่อนไหวครั้งสำคัญนี้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การขยายธุรกิจเข้าไปยังกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา
“พวกเราเชื่อมั่นว่าคริปโตสามารถมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความสนใจที่มีต่อบล็อกเชน และ นวัตกรรมต่าง ๆ ให้มีความแพร่หลายในภูมิภาคมากขึ้น”
นอกจากนี้การร่วมมือกันในครั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่องของทางหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินแห่งโคลอมเบีย หรือ the Superintendencia Financiera de Colombia (SFC) ในการออกกฎระเบียบ “la Arenera” ที่ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลัง และ สินเชื่อสาธารณะแห่งโคลอมเบีย ในเดือนกันยายนปี 2020
ในเดือนมกราคม ที่ผ่านมา SFC ได้ออกมาประกาศว่าทางหน่วยงานได้เลือกแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตจำนวน 9 แห่งจากทั้งหมด 14 แห่งให้มีสิทธิได้เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ Gemini, Binance และ Bitso แพลตฟอร์มในประเทศเม็กซิโก
ในเดือนมีนาคม ธนาคาร Banco de Bogotá ซึ่งเป็นธนาคารที่เก่าแก่ที่สุดแห่งโคลอมเบีย ได้ออกมาแถลงการณ์ว่าทางธนาคารเตรียมให้บริการด้านคริปโต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกฎ “la Arenera” ย้อนกลับไปเมื่อ 1 ปีที่แล้วในเดือนมีนาคม ปี 2020 ทางสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าลาตินอเมริกาเป็นกลุ่มประเทศที่มีผู้ใช้งานคริปโตมากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของโลก
More Stories
Celsius ยื่นล้มละลายอย่างเป็นทางการแล้ว
รัสเซียเห็นชอบร่างกฎหมายการขุดเหมืองเหรียญคริปโตแล้ว
SK Telecom บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ประกาศเตรียมสร้างกระเป๋าเงิน Web 3