Afriwise ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาระบบนิเวศทางด้าน fintech ในแต่ละภูมิภาคประกอบไปด้วยประเทศเคนยา, ไนจีเรียและแอฟริกาใต้ โดยงานวิจัยดังกล่าวได้พบว่า การพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการเงินถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศเหล่านี้เติบโตได้อย่างมีศักยภาพมากขึ้น
งานวิจัยได้พูดถึงกุญแจสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีการเงินหรือ fintech ภายในประเทศเหล่านี้เติบโตมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งในรายละเอียดได้กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างการร่างกฎหมายกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการเงินเป็นปัจจัยสำคัญ
เช่นกันเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ทั้งนักลงทุนกับภาคธุรกิจได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในอุตสาหกรรมแห่งนี้ จากการที่ตลาดเริ่มมีความเอื้ออำนวยต่อพวกเขามากขึ้น
นอกจาก 3 ประเทศที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้ว ในประเทศอียิปต์เองก็ถือเป็นอีกหนึ่งเสือสำคัญอาจเติบโตเป็น hub ทางด้านเทคโนโลยีการเงิน
นอกจากนั้นแล้วนักลงทุนหลายคนเริ่มมองเห็นทิศทางอนาคตประเทศต่าง ๆ ที่อยู่ในทวีปแอฟริกามากขึ้น และพวกเขารู้ว่ามีประเทศไหนมากที่ไม่ได้มีการผลักดันร่างกฎหมายที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีการเงิน
รายงานวิจัยได้พูดถึงการร่างกฎหมายที่ไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับ fintech ว่า อาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้ปลายทางและผู้ให้บริการทางด้าน fintech ตกอยู่ในความเสี่ยงที่ยังคงเอาแน่เอานอนไม่ได้
แน่นอนว่าความเสี่ยงตรงนี้มาจากการที่นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกที่จะชะลอการลงทุนไป นอกจากนั้นแล้วหากมาดูในส่วนของการขาดระบบรองรับเทคโนโลยีการเงินแล้ว ในงานวิจัยได้มองว่า ส่วนหนึ่งมาจากการที่รัฐบาลไม่ได้ให้เงินทุนสนับสนุนหรือไม่ยอมให้นิติบุคคลดำเนินการจดทะเบียนเพื่อให้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีการเงินสามารถดำเนินกิจการได้
เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายบ่อยครั้งก็ขาดข้อมูลเกี่ยวกับ fintech โดยเฉพาะเรื่องของการให้บริการทางการเงินแบบข้ามพรมแดน ด้วยเหตุนี้จึงถือเป็นความท้าทายสำคัญสำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายที่ต้องมาให้ความสำคัญกับ fintech โดยตรงมากขึ้น
More Stories
เฟดจ่อขึ้นดอกเบี้ยแรง 1% ในการประชุมเดือนนี้ หลังเงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด
เทนเซ็นต์เล็งขายเทคโนโลยีช่วย บ.ต่างชาติลุยตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีน
ประธาน FED แถลงว่าความผันผวนของคริปโตไม่ได้เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจ